เผยแพร่เมื่อ : พฤหัสบดี 3 พฤศจิกายน 2559 โดย วิทยา กวีวิทยาภรณ์ จำนวนผู้เข้าชม 1,289 คน
รศ.ดร.พานิช อินต๊ะ
อาจารย์ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มทร.ล้านนา ได้รับรางวัลพระราชทาน
"นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2559"
จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์
จากผลงานเครื่องวัดปริมาณมวลฝุ่นละออง PM10
และ PM2.5 ในอากาศด้วยเทคนิคไฟฟ้าสถิต
เครื่องวัดปริมาณมวลฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 ในอากาศที่พัฒนาขึ้นใช้หลักการวัดกระแสไฟฟ้าสถิต (Electrostatic
current) ของอนุภาคผ่านตัวกรองฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง (High
Efficiency Particulate-Free Air Filter หรือ HEPA) สามารถตรวจจับและเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองในอากาศทั้งฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า
10 ไมโครเมตร (PM10) และ 2.5 ไมโครเมตร (PM2.5) ได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาในการประมวลผลเร็วถึง 0.1 วินาที
มีช่วงการวัดระหว่าง 0 ถึง 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เครื่องต้นแบบสามารถทำงานได้เทียบเคียงกับเครื่องมือที่มีใช้ในปัจจุบัน เช่น ParticleScan,
Thermo Scientific TEOM Series 1400ab, Thermo Scientific
Model 5014i Beta, Thermo Scientific Model FH62C14 Beta Gauge จึงทำให้สามารถศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนที่ของฝุ่นละอองในอากาศได้
มีการเชื่อมโยงข้อมูลผลการตรวจวัดแบบไร้สายผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G
และสามารถแสดงผลการวัด บันทึกข้อมูล
และแสดงผลเป็นกราฟและตารางในเชิงปริมาณฝุ่นต่อเวลาในเว็บบราวน์เซอร์ http://cmuccdc.org/
หรือ http://www.livebox.me /ruee2559/ หรือ www.ruee-rmutl.com
การบำรุงรักษาต่ำ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 1,000 ชั่วโมง ใช้วัสดุอุปกรณ์หลายๆ ส่วนทดแทน ฝีมือ เครื่องจักร
และเทคโนโลยีการผลิตในการประกอบติดตั้งและสร้างจากภายในประเทศ 100%
มีการออกแบบเครื่องให้มีขนาดที่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและทนทาน
เหมาะสำหรับงานภาคสนาม เครื่องต้นแบบได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัท เฟบิกซ์
อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557
ให้สิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยในการผลิตเพื่อเชิงพาณิชย์
ในปัจจุบันเครื่องต้นแบบได้ทำการติดตั้งและใช้ประโยชน์จริงจำนวน 5
สถานีในภาคเหนือและภาคใต้ คือ 1) สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
จังหวัดเชียงใหม่ 2) สถานีตรวจวัดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2)
สถานีตรวจวัดโรงพยาบาลเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 3) สถานีตรวจวัด มทร.ล้านนา
อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และ 5) สถานีตรวจวัดคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่
ออกแบบและพัฒนาโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา